Teacher : Phaitoon Yaemprasuan
http://picta55.blogspot.com
SOURCE: http:// www.bigpicture.ru
Google has been founded in California in January 1996 as a research
project by Larry Page and Sergey Brin when they were both studying in
graduate school at Stanford University. 15 years later, Google is one of the most recognizable brands in the world.
The company manages more than one million servers in data centers (DC)
around the world, and processes over one billion search requests and
twenty-four petabytes of user data each day, bringing incredible profits
to its owners.
Part of this income is invested in creating the most comfortable and
pleasant working environment, which each employee can only dream of.
Google ก่อตั้งขึ้นที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในปี 1996 ในลักษณะ research project (โครงงานวิจัย) โดย Larry Page และ Sergey Brin สองหนุ่มนักศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย (graduate school - จะเป็นเสมือนคณะในมหาวิทยาลัย ที่ทำหน้าที่ประสานงานการจัดการศึกษาในระดับที่สูงกว่าปริญญาตรี) มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University - มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่ง ของสหรัฐอเมริกา) 15 ปี หลังจากนั้น Google
ได้กลายเป็นแบรนด์สินค้าที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยที่ Google
ต้องบริหารจัดการเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (servers)
จำนวนมากกว่าหนึ่งล้านเครื่อง ที่อยู่ตามศูนย์เก็บข้อมูล [data centers (DC)] ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วโลก และต้องทำการประมวลผล search requests (คำร้องขอให้สืบค้นข้อมูล) มากกว่าหนึ่งพันล้านคำขอ ซึ่งปริมาณข้อมูลในแต่ละวันมีมากถึง 24 petabytes (24 ล้าน-ล้าน กิกะไบต์) ก็คิดเอานะว่า ปีหนึ่งๆ Google จะโกยรายได้ไปเท่าไรจากผู้ใช้งานทั่วโลก (แม้
ว่าคนธรรมดาอย่างเราๆ จะใช้ฟรี แต่อย่าลืมว่า
ผู้ใช้รายใหญ่ที่เป็นหน่วยงาน หรือองค์กร ที่เขาใช้ข้อมูลเยอะๆ
ข้อมูลขนาดใหญ่ๆ เพื่อความปลอดภัย รวดเร็ว ...
เขาก็ต้องเสียเงินค่าเช่านะ แล้ว Google ยังได้ค่าโฆษณาอีกล่ะ
มากมายมหาศาล) ก็เพราะรายได้มากมายนี่เอง Google เขาก็ต้องเอาใจพนักงานของเขา ที่เป็นมันสมอง เป็นมือ เป็นไม้ ให้ Google ดำเนินไปได้ (คน
ที่ Google จ้างมาทำงานนี่ ต้องมีความรู้ ความสามารถอยู่ในขั้นเทพ...
กว่าจะผ่านการคัดกรองไปเป็นพนักงงานของเขาได้ ก็คงไม่ใช่ธรรมดาสามัญแน่)
จึงพยายามสร้างที่ทำงานในฝัน ให้กับพนักงานของเขา
เป็นทำนองซื้อใจพนักงานให้มีขวัญกำลังใจเต็มร้อย ลุยงานโลดๆ
โดดเด่นไม่เห็นฝุ่น ประมาณนั้น
My school
วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556
Those Who Sent Mails To picta55@gmail.com
Teacher Phaitoon Yaemprasuan
Teacher
had reviewed his Gmail inbox, picta55@gmail.com, then captured the
names of those who had sent their e-mails to this mail box. The list
has been sorted by ascending from earlier date. On the day after
Teacher is going to delete all of these received mails, please do not
send any message of yours to this mailbox anymore. Because the time to
send is over.
ครูผู้สอนได้ไปดูเมล์ picta55@gmail.com และทำการจับภาพรายชื่อนักเรียนที่ส่งเมล์มาหา โดยเรียงลำดับส่งก่อน/ส่งหลัง หลังจากวันนี้ไปแล้วครูผู้สอนจะลบเมล์ทั้งหลายออก กรุณาอย่างส่ง message มาอีก เพราะหมดเวลาให้ส่งแล้ว
page 1
page2
page3
page4
page5
page6
page7
page8
page9
page 10
page 11
page 12
Teacher would like to admire the energetic students who are responsible for his assignments both e-mail message confirmation and blog creation. Another expectation of the teacher is to see you transfer your know-how to your other friends who are dragging behind. If you could help them building their blogs, they would go on themself.
ครูผู้สอนได้ไปดูเมล์ picta55@gmail.com และทำการจับภาพรายชื่อนักเรียนที่ส่งเมล์มาหา โดยเรียงลำดับส่งก่อน/ส่งหลัง หลังจากวันนี้ไปแล้วครูผู้สอนจะลบเมล์ทั้งหลายออก กรุณาอย่างส่ง message มาอีก เพราะหมดเวลาให้ส่งแล้ว
page 1
May 14-15 |
May 16-18 |
page2
page3
page4
page5
page6
page7
page8
page9
page 10
page 11
page 12
Teacher would like to admire the energetic students who are responsible for his assignments both e-mail message confirmation and blog creation. Another expectation of the teacher is to see you transfer your know-how to your other friends who are dragging behind. If you could help them building their blogs, they would go on themself.
Those Who Sent Mails To Occupatech@gmail.com
Teacher Phaitoon Yaemprasuan
ครูผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนส่ง message มายัง occupatech@gmail.com ครูผู้สอนสังเกตว่า นักเรียนที่มีความกระตือรือร้นก็ทำในทันที ขณะที่นักเรียนที่เฉื่อยชาก็หาทำอะไรไม่ แล้วครูผู้สอนจะทำอย่างไรกับคนที่ไม่ทำอะไรเลย
How to Create Your Blog with www.blogger.com สร้างบล็อกอย่างไร
Teacher Phaitoon Yaemprasuan : occupatech@gmail.com
http://picta55.blogspot.com
1. After you had signed in Google Mail Service and then you had your own Gmail, well, you are now the one who can ask for your blog creation with www.blogger.com using your Gmail.
หลัง จากที่นักเรียนได้ไปลงทะเบียนขอมี Gmail account กับ Google แล้ว นักเรียนก็สามารถเข้าไปขอสร้าง Blog กับ blogger.com โดยใช้ Gmail address ที่นักเรียนขอไว้แล้วนั่นเอง [Gmail และ Blogger เป็นของ Google เหมือนกัน จึงไปกันได้ด้วยดี)
2. After entering your Gmail with its password, the "Welcome Screen" of Blogger appears and confirms that you have just passed its regulation. Now you can either add your profile details or skip to the next step.
ถ้า กรอกถูกต้อง นักเรียนก็จะมาพบกับหน้าจอ ตอบรับของ blogger ตรงนี้นักเรียนอาจจะเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเองลงไปใน Profile ก็ได้ หรืออาจจะข้ามไปก็ได้
3. See "New Blog" and click, wow, to create your blog any way!!!
หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่หน้าจอที่บอกว่า ให้นักเรียนสร้างบล็อกได้ ก็ทำง่ายๆ เพียงแค่คลิกที่ "บล็อกใหม่"
4. Yeah!, you have to fill some fields related to your new blog e.g. title, address and template. But you can pass this task easily. Or you can skip it. (Because you can change these options any time).
หลังจากที่คลิกบล็อกใหม่ นักเรียนก็จะมาพบกับหน้าจอที่เขียนว่า รายการบล็อก นักเรียนก็จะต้องกรอกที่อยู่ของบล็อก ซึ่งนักเรียนก็กรอกตามที่ครูกำหนด คือเลขประจำตัว 4 หลัก ตามด้วยตัวอักษรของชื่อ ในภาพเป็นบล็อกของครูที่ทำเป็นตัวอย่าง (ของนักเรียนต้องดูภาพล่างถัดจากภาพนี้)
===> เมื่อกรอกถูกแล้วก็ยืนยันว่า สร้างบล็อก
5. You can select "Settings Option" to change the style/template of your blog anyway and anytime.
นักเรียนสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่กำหนดไว้ของบล็อกได้ โดยไปเลือกที่การตั้งค่า
หรือเปลี่ยนรูปแบบ/แม่แบบ ก็ยังได้ (ดังรูปข้างล่างนี้)
6. Well, you can start your post now. See the sample below.
ลงมือสร้างบทความ (POST) ดังตัวอย่าง หลังจากนั้นก็เผยแพร่ (Publish)
7. When you select the option "View Blog", your blog with your post will appears like the following.
There are any students complain that they have no Internet connection at home, so they can never create their blog. The teacher realizes the problems. But the cops (the fans of Liverpool Football Club) say, "You'll never walk alone", be sure you still have friends who can help you. Look for a star that guides you to the way out.
มี นักเรียนส่วนหนึ่งมาปรับทุกข์ว่า ที่บ้านไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ เลยไม่อาจจะสร้างบล็อกได้ เรื่องนี้ครูผู้สอนเองก็ตระหนักอยู่แล้ว แต่ช้าก่อน.... สาวกหงส์แดง หรือพวกเดอะค็อป (แฟนคลับสโมสรลิเวอร์พูล) บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "คุณ..จะไม่มีวันได้เดินเผชิญเหตุคนเดียว.." (เพราะพวกเราจะเดินไปพร้อมๆ กัน ช่วยเหลือกัน ไม่ทิ้งกัน..น่ะสิ) ... เพราะฉนั้นนักเรียนที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตที่บ้าน... ก็ไม่ใช่ประเด็นที่เป็นปัญหา... เพราะว่า เราก็ยังมีเพื่อนๆ.. เพื่อนๆ ที่พร้อมจะช่วยเหลือเรา ...เพียงแต่เราต้องหา... ดาวดวงนั้น (เพื่อนสักคน) ให้เจอ ดวงดาวที่จะช่วยนำเราไปสู่ทางออก..
======================================================================
YOU ARE EXPECTED TO START CREATING YOUR BLOG NOW.
Please don't say "never" again, do you?
ก็หวังว่า นักเรียนคงจะสามารถสร้างบล็อกเบื้องต้นได้แล้ว ขอเพียงแต่ว่า ต้องรีบไปทดลองทำทันที ถ้านักเรียนมัวผลัดวันประกันพรุ่ง ครูรับรองว่า นักเรียนก็จะยังทำไม่ได้ หรือ "ไม่ได้ทำ"
http://picta55.blogspot.com
They are energetic schoolkids who love to learn and learn to develop their competencies. พวกเขาเป็นนักเรียนที่เอางานเอาการ รักการเรียน และเรียนรู้ที่จะพัฒนาสมรรถนะในการเรียนของตนเอง |
1. After you had signed in Google Mail Service and then you had your own Gmail, well, you are now the one who can ask for your blog creation with www.blogger.com using your Gmail.
หลัง จากที่นักเรียนได้ไปลงทะเบียนขอมี Gmail account กับ Google แล้ว นักเรียนก็สามารถเข้าไปขอสร้าง Blog กับ blogger.com โดยใช้ Gmail address ที่นักเรียนขอไว้แล้วนั่นเอง [Gmail และ Blogger เป็นของ Google เหมือนกัน จึงไปกันได้ด้วยดี)
2. After entering your Gmail with its password, the "Welcome Screen" of Blogger appears and confirms that you have just passed its regulation. Now you can either add your profile details or skip to the next step.
ถ้า กรอกถูกต้อง นักเรียนก็จะมาพบกับหน้าจอ ตอบรับของ blogger ตรงนี้นักเรียนอาจจะเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเองลงไปใน Profile ก็ได้ หรืออาจจะข้ามไปก็ได้
You can give more details of your profile or you can skip to the next step by clicking the orange button. |
3. See "New Blog" and click, wow, to create your blog any way!!!
หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่หน้าจอที่บอกว่า ให้นักเรียนสร้างบล็อกได้ ก็ทำง่ายๆ เพียงแค่คลิกที่ "บล็อกใหม่"
4. Yeah!, you have to fill some fields related to your new blog e.g. title, address and template. But you can pass this task easily. Or you can skip it. (Because you can change these options any time).
หลังจากที่คลิกบล็อกใหม่ นักเรียนก็จะมาพบกับหน้าจอที่เขียนว่า รายการบล็อก นักเรียนก็จะต้องกรอกที่อยู่ของบล็อก ซึ่งนักเรียนก็กรอกตามที่ครูกำหนด คือเลขประจำตัว 4 หลัก ตามด้วยตัวอักษรของชื่อ ในภาพเป็นบล็อกของครูที่ทำเป็นตัวอย่าง (ของนักเรียนต้องดูภาพล่างถัดจากภาพนี้)
===> เมื่อกรอกถูกแล้วก็ยืนยันว่า สร้างบล็อก
5. You can select "Settings Option" to change the style/template of your blog anyway and anytime.
นักเรียนสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่กำหนดไว้ของบล็อกได้ โดยไปเลือกที่การตั้งค่า
หรือเปลี่ยนรูปแบบ/แม่แบบ ก็ยังได้ (ดังรูปข้างล่างนี้)
ลงมือสร้างบทความ (POST) ดังตัวอย่าง หลังจากนั้นก็เผยแพร่ (Publish)
7. When you select the option "View Blog", your blog with your post will appears like the following.
เมื่อเราเรียกดูบล็อก (View blog) ก็จะมีหน้าตาทำนองนี้ ดังตัวอย่าง
======================================================================
There are any students complain that they have no Internet connection at home, so they can never create their blog. The teacher realizes the problems. But the cops (the fans of Liverpool Football Club) say, "You'll never walk alone", be sure you still have friends who can help you. Look for a star that guides you to the way out.
มี นักเรียนส่วนหนึ่งมาปรับทุกข์ว่า ที่บ้านไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ เลยไม่อาจจะสร้างบล็อกได้ เรื่องนี้ครูผู้สอนเองก็ตระหนักอยู่แล้ว แต่ช้าก่อน.... สาวกหงส์แดง หรือพวกเดอะค็อป (แฟนคลับสโมสรลิเวอร์พูล) บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "คุณ..จะไม่มีวันได้เดินเผชิญเหตุคนเดียว.." (เพราะพวกเราจะเดินไปพร้อมๆ กัน ช่วยเหลือกัน ไม่ทิ้งกัน..น่ะสิ) ... เพราะฉนั้นนักเรียนที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตที่บ้าน... ก็ไม่ใช่ประเด็นที่เป็นปัญหา... เพราะว่า เราก็ยังมีเพื่อนๆ.. เพื่อนๆ ที่พร้อมจะช่วยเหลือเรา ...เพียงแต่เราต้องหา... ดาวดวงนั้น (เพื่อนสักคน) ให้เจอ ดวงดาวที่จะช่วยนำเราไปสู่ทางออก..
======================================================================
YOU ARE EXPECTED TO START CREATING YOUR BLOG NOW.
Please don't say "never" again, do you?
ก็หวังว่า นักเรียนคงจะสามารถสร้างบล็อกเบื้องต้นได้แล้ว ขอเพียงแต่ว่า ต้องรีบไปทดลองทำทันที ถ้านักเรียนมัวผลัดวันประกันพรุ่ง ครูรับรองว่า นักเรียนก็จะยังทำไม่ได้ หรือ "ไม่ได้ทำ"
Computer Network เครือข่ายคอมพิวเตอร์
TEACHER : Phaitoon Yaemprasuan : occupatech@gmail.com
http://picta55.blogspot.com
Because the operating software (OS) of all computers in classroom-102 is Windows7, so any students who use them, those machines, should better understand how they work, especially how to use the network of them.
เพราะซอฟต์ แวร์ระบบปฏิบัติการ (โอเอส) ของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในห้องเรียน 102 คือ Windows7 ดังนั้นนักเรียนก็น่าจะต้องรู้ว่า มันมีวิธีการทำงานอย่างไร โดยเฉพาะระบบเครือข่าย
Our computers in comp102 classroom
are connected together with the UTP (unshielded twisted pair) cables.
Why? Because the unshielded cables are lower cost than the shielded
cables which have been used in the signal noisy areas e.g. airports,
factories, etc. The style of their connection is "Star Topology" which each machine has its own cable which connects directly to the hub/switch. A hub/switch is the center point of cables (both devices are similar to each other but a switch is more clever than a hub) . Well our network is called Local Area Network (LAN).
Any LAN must has its workgroup name which required by the Operating
System (OS) of each computer, Windows7 . But the administrator (the
teacher) of this LAN named it "comp2" workgroup.
เครื่อ งคอมพิวเตอร์ในห้องเรียน 102 เชื่อมต่อด้วยสายเครือข่ายแบบ สายคู่บิดเกลียวไม่หุ้มฉนวน หรือสายยูทีพี ทำไมต้องเป็นสายแบบนี้? เพราะราคาสายแบบนี้มันถูกกว่า สายเคเบิลแบบหุ้มฉนวน ที่ใช้กันในพื้นที่ที่มีการรบกวนสัญญาณมาก เช่น โรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ ท่าอากาศยาน ฯลฯ และการที่ต้องบิดเป็นเกลียวก็เพื่อให้ป้องกันการรบกวนสัญญาณนั่นเอง ซึ่งรูปแบบหรือโทโพโลยีของการต่อระบบแลน จะเป็นแบบสตาร์โทโพโลยี นั่น คือเครื่องทุกเครื่องก็จะมีสายเคเบิลเป็นของตนเองไปโยงกับฮับ/สวิตช์ ที่ถือว่าเป็นจุดรวมศูนย์ของสายเคเบิลนั่นเอง (ทั้งสองอุปกรณ์ทำหน้าที่เหมือนกัน แต่สวิตช์จะมีความสามารถในการจัดการมากกว่า เช่น สายใดที่ไม่มีการเชื่อมต่อ สวิตช์มันก็จะตัดออกจากระบบ เป็นต้น) ระบบเครือข่ายของเราเรียกว่า แลน โดยแลนแต่ละวงจะต้องมีการกำหนดชื่อ เวิร์กกรุ๊ป ซึ่งของห้องเรียน 102 ครูผู้สอนกำหนดชื่อว่า comp2
If we consider only the "comp2-workgroup LAN", it is a peer-to-peer network that every machine is independent from each other but shares its files/folders/printers to its peers. On the other hand, when this workgroup connects to the server computer of "the School Media Center", it must be a client-server network.
What is about the client-server network? It means that the server computer of "the Media Center" is the manager/boss of other computers which are only the clients. The server computer has been installed with the operating-software-for-server such as Windows2003server/Windows2008server , Linux or Unix, which can manage the client computers of the network. The clients have to obey the server because the latter has the power to control/ban the former. Yes, the clients can never control/manage the server.
เครือข่ายแบบ Server-Client Network เป็นแบบใด? ก็หมายความว่า เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) ของศูนย์สื่อคือ ผู้จัดการ/นาย ของเครื่องอืนๆ ที่มีสถานะเป็นแค่ลูกน้อง หรือClient แค่นั้น การที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์สามารถบริหารจัดการเครืองลูกข่ายของมันได้นั้น เพราะมันได้ติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการแบบแม่ข่ายเอาไว้นั่นเอง อาทิ Windows2003server/Windows2008server , Linux หรือ Unix ซึ่งเครื่องลูกข่ายจะ ต้องยอมให้ตนเองถูกจัดการได้ เพราะซอฟต์แวร์ระบบของเครื่องแม่ข่ายสามารถควบคุม/สั่งแบน เครื่องอื่นๆ ได้ ในขณะที่เครื่องอื่นๆ ไม่สามารถบริหารจัดการเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้นั่นเอง
Every machine in the network is required to have its unique "hostname" and "IP address". Only the server computer has the "static IP-address" while the IP addresses of the client computers are "dynamic"
specified/controlled by the sever. If the user of any client computer
specify the static IP address himself, the server computer can never
share the Internet connection because the "IP address conflict"
problem could be occurred easily. Then the alien client will be kicked
off /faded away from the network simultaneously. Yes, the server
computer is the "Internet gateway" of the network.
คอม พิวเตอร์ทุกเครื่องต้องมีชื่อเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใคร เรียกว่า Hostname และต้องมีรหัสหมายเลขเครื่องกำกับไว้ เรียกว่า IP-address และในเครือข่ายแลนก็จะมีแค่เพียงเครื่องแม่ข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์เท้านั้น ที่มีรหัสไอพีแอสเดรสแบบคงที่ เรียกว่ามี static IP-address ขณะที่ไอพีแอสเดรสของคอมพิวเตอร์ลูกข่ายทั้งหลาย จะไม่คงที่ หรือDynamic ส่วนจะเป็นรหัสไอพีอะไรนั้น เครื่องเซิรฟเวอร์จะเป็นตัวจัดการให้เอง โดยยึดหลัก FIFO (First In, First Out) ก็หมายความว่า เครื่องลูกข่ายตัวไหนเชื่อมต่อกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ก่อนก็จะๆด้รับการจ่าย รหัสไอพีให้ก่อน-หลัง ตามลำดับไป แต่ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายตัวไหนไปดำเนินการกำหนดรหัสไอพีแอสเดรสของ ตัวเองเป็นแบบคงที่ละก็ คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆ ก็จะถูกเครื่องเซิร์ฟเวอร์เฉดหัวออกไปจากระบบ มิเช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดปัญหารหัสไอพีชนกันได้ในระบบ และเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในฐานะเกตเวย์หรือทางออกสู่อินเทอร์เน็ตของระบบ ก็จะไม่ยอมแบ่งปันการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้กับเครื่องนั้นๆ
OK., after selecting the "Local Area Network" option, the "Local Area Network Connection Status" window appears. You can see its speed of packets transmission (100 Mbps) , bytes of the sent/received packets.
หลังจากที่นักเรียนเลือก "Local Area Network" หน้าต่างที่ชื่อ "Local Area Network
Connection Status" ก็จะโผล่หน้ามาให้ยล ตรงนี้แหละนักเรียนก็จะเห็นได้ว่า ความเร็วของเครือข่ายเราขนาดไหนในการส่งแพ็คเก็ตส์ (จำนวนบิตของข้อมูลในหน่วยวินาที) ความเร็วระดับมดวิ่งนั่นแหละ แค่สัก 100 ล้านบิตต่อวินาที อย่าลืมว่า ตั้ง 8 บิต จึงจะได้ไบต์
Then, when you click on the "Properties" button, another window shows. To find and select the "Internet Protocol Version) option, you can see its IPaddress has been obtained automatically by the gateway/server computer (of the School Media Center).
ต่อ จากนั้นเราก็คลิกปุ่ม properties เราจะพบว่า เครื่องลูกข่ายที่เราใช้อยู่ จะถูกจ่ายรหัสไอพีให้แบบอัตโนมัติ ตามที่กล่าวมาแล้ว (ถ้าจะปรับเป็นรหัสคงที่ก็ต้องมาปรับตรงนี้) แต่ปกติจะตั้งไว้ตามรูปนั่นแหละ
มี อีกเรื่องที่ครูอยากจะพูดถึงก็คือ "โปรโตคอล" มันคืออะไร? ถ้่าจะว่าไปนะ คำๆ นี้ มันเป็นภาษาที่ใช้ในวงการฑูตเขา คือกรณีที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารกันระหว่างพวกฑูตของประเทศต่างๆ เขาก็จะต้องมีวิธีการ มาตรฐาน ระบบระเบียบต่างๆ ที่เข้าใจตรงกัน และเขาเรียกว่า protocol ทางวงการคอมพิวเตอร์ก็ไปขอยืมคำศัพท์ของเขามาใช้บ้าง โปรโตคอลของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (www.wikipedia.org) ก็คือ ระบบของรูปแบบข่าว สารเชิงดิจิตอลและกติกา ของการแลกเปลี่ยนกันระหว่างระบบคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม ซึ่งทุกวันนี้ โปรโตคอลที่เราใช้ในเครือข่ายนั้น คือ ทีซีพี/ไอพี (โปรโตคอลควบคุมการส่งข้อมูล และอินเทอร์เน็ตโปรโตคอล) และ ตอน นี้รัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ ฯพณฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็กำลังปรับเปลี่ยนอินเทอร์เน็ตโปรโตคอลของประเทศเรา ที่ขณะนี้เป็นเวอร์ชัน 4 ให้เป็นเวอร์ชั่น 6 เพื่อรองรับปริมาณของเครือข่าย และประสิทธิภาพที่ขยายเพิ่มขึ้น
http://picta55.blogspot.com
What is Computer Network? Why?
If any computer is not connected to others it is called "a stand-alone machine". Today if anyone uses any stand-alone machine , he must be considered a stranger because the world today is of computer networks. A network machine can send/receive packets (bits of data per second) to/from any other machines e.g. Internet. Our computers/tablet PCs/smart phones can never be alone anymore. Yes, they have been connected to their networks both local (e.g. the networks in our school) and global (e.g. Internet). We can share our resources such as files, printers etc. to each other through our local area network (LAN) or we can exchange our data through the wide area network (WAN) like Internet.เครือข่ายคอมพิวเตอร์คืออะไร? ทำไม?
ถ้าหากคอมพิวเตอร์เครื่องไหนไม่ได้เชื่อมต่อกับใคร มันจะถูกเรียกว่า "เครื่องที่โดดเดี่ยว" และถ้ามีคนใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แบบนั้น ก็จะถูกมองว่าเพี้ยนหรือเปล่า? เพราะโลกทุกวันนี้ได้กลายเป็นโลกของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไปเรียบร้อยแล้ว เครืองคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย จะสามารถส่ง/รับข้อมูล ไปสู่/จากเครื่องอื่นๆ เช่น อินเทอร์เน็ต เครื่องคอมพิวเตอร์/แท็บเล็ต/สมาร์ตโฟน ของเรา จึงไม่อาจอยู่ได้อย่างเดียวดายอีกต่อไป เพราะมันจักต้องถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่าย ทั้งเครือข่ายท้องถิ่น (เช่น เครือข่ายภายในโรงเรียนของเรา) และเครือข่ายระดับโลก (เช่น อินเทอร์เน็ต) เรายังสามารถแบ่งปันทรัพยากร อาทิ ไฟล์ เครื่องพิมพ์ ให้กันและกันในเครือข่าย ผ่านระบบเครือข่ายเฉาะที่ (แลน) หรือเราสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายวงกว้างอย่างอินเทอร์เน็ต ได้ด้วยFigure 1 What is Computer Network เครือข่ายคอมพิวเตอร์คืออะไร |
Figure 2 Computer Network classified by Area Width เครือข่ายคอมพิวเตอร์ จำแนกตามขนาดของพิ้นที่ |
Figure 3 Types of Network Topology รูปแบบการเชื่อมต่อของเครือข่าย |
Figure 4 Star/Extended Star Topology รูปแบบการเชื่มต่อแบบสตาร์ และแบบสตาร์หลายๆ กลุ่ม |
Figure 5 The Server-Client Network What/How เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบ แม่ข่าย-ลูกข่าย |
:: :: ::
What/How of the Network in Comp102 Classroom?
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ห้องเรียนคอมพ์102 เป็นแบบไหน/อย่างไร
Because the operating software (OS) of all computers in classroom-102 is Windows7, so any students who use them, those machines, should better understand how they work, especially how to use the network of them.
เพราะซอฟต์ แวร์ระบบปฏิบัติการ (โอเอส) ของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในห้องเรียน 102 คือ Windows7 ดังนั้นนักเรียนก็น่าจะต้องรู้ว่า มันมีวิธีการทำงานอย่างไร โดยเฉพาะระบบเครือข่าย
เครื่อ งคอมพิวเตอร์ในห้องเรียน 102 เชื่อมต่อด้วยสายเครือข่ายแบบ สายคู่บิดเกลียวไม่หุ้มฉนวน หรือสายยูทีพี ทำไมต้องเป็นสายแบบนี้? เพราะราคาสายแบบนี้มันถูกกว่า สายเคเบิลแบบหุ้มฉนวน ที่ใช้กันในพื้นที่ที่มีการรบกวนสัญญาณมาก เช่น โรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ ท่าอากาศยาน ฯลฯ และการที่ต้องบิดเป็นเกลียวก็เพื่อให้ป้องกันการรบกวนสัญญาณนั่นเอง ซึ่งรูปแบบหรือโทโพโลยีของการต่อระบบแลน จะเป็นแบบสตาร์โทโพโลยี นั่น คือเครื่องทุกเครื่องก็จะมีสายเคเบิลเป็นของตนเองไปโยงกับฮับ/สวิตช์ ที่ถือว่าเป็นจุดรวมศูนย์ของสายเคเบิลนั่นเอง (ทั้งสองอุปกรณ์ทำหน้าที่เหมือนกัน แต่สวิตช์จะมีความสามารถในการจัดการมากกว่า เช่น สายใดที่ไม่มีการเชื่อมต่อ สวิตช์มันก็จะตัดออกจากระบบ เป็นต้น) ระบบเครือข่ายของเราเรียกว่า แลน โดยแลนแต่ละวงจะต้องมีการกำหนดชื่อ เวิร์กกรุ๊ป ซึ่งของห้องเรียน 102 ครูผู้สอนกำหนดชื่อว่า comp2
The Teacher Teaches About Programming Using C-Language in Comp102 Classroom ครูผู้สอน ขณะกำลังสอนเกี่ยวกับการโปรแกรมด้วยภาษาซี ณ ห้องเรียนคอมพ์102 |
:: :: ::
If we consider only the "comp2-workgroup LAN", it is a peer-to-peer network that every machine is independent from each other but shares its files/folders/printers to its peers. On the other hand, when this workgroup connects to the server computer of "the School Media Center", it must be a client-server network.
ถ้าพิจารณาเฉพาะเครือข่ายห้องเรียนคอมพ์102 มันจัดว่าเป็น เครือข่ายแบบ-เพื่อน-ถึง-เพื่อน
หรือ peer-to-peer นั่นหมายถึงว่า
คอมพิวเตอร์แต่ละเครืองในวงแลนจะเป็นอิสระจากกันและกัน
เพียงแต่มาร่วมกลุ่มกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกันในหมู่เพื่อนแค่นั้น
ในอีกทางหนึ่ง หากนำเอาวงแลนนี้ไปต่อเชื่อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย
หรือ server computer ที่อยู่ในห้องศูนย์สื่อ ของโรงเรียน เครือข่ายก็จะกลายเป็นแบบ "แม่ข่าย-ลูกข่าย" หรือ Server-Client Network
What is about the client-server network? It means that the server computer of "the Media Center" is the manager/boss of other computers which are only the clients. The server computer has been installed with the operating-software-for-server such as Windows2003server/Windows2008server , Linux or Unix, which can manage the client computers of the network. The clients have to obey the server because the latter has the power to control/ban the former. Yes, the clients can never control/manage the server.
เครือข่ายแบบ Server-Client Network เป็นแบบใด? ก็หมายความว่า เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) ของศูนย์สื่อคือ ผู้จัดการ/นาย ของเครื่องอืนๆ ที่มีสถานะเป็นแค่ลูกน้อง หรือClient แค่นั้น การที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์สามารถบริหารจัดการเครืองลูกข่ายของมันได้นั้น เพราะมันได้ติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการแบบแม่ข่ายเอาไว้นั่นเอง อาทิ Windows2003server/Windows2008server , Linux หรือ Unix ซึ่งเครื่องลูกข่ายจะ ต้องยอมให้ตนเองถูกจัดการได้ เพราะซอฟต์แวร์ระบบของเครื่องแม่ข่ายสามารถควบคุม/สั่งแบน เครื่องอื่นๆ ได้ ในขณะที่เครื่องอื่นๆ ไม่สามารถบริหารจัดการเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้นั่นเอง
The Common Personal Computer that was installed with the Linux Server Operating System.
เครื่องพีซีบ้านๆ ที่เอามาทำเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ โดยนำมาติดตั้งระบบปฏิบัติการลีนิกซ์สำหรับเครื่องข่าย
เครื่องพีซีบ้านๆ ที่เอามาทำเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ โดยนำมาติดตั้งระบบปฏิบัติการลีนิกซ์สำหรับเครื่องข่าย
คอม พิวเตอร์ทุกเครื่องต้องมีชื่อเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใคร เรียกว่า Hostname และต้องมีรหัสหมายเลขเครื่องกำกับไว้ เรียกว่า IP-address และในเครือข่ายแลนก็จะมีแค่เพียงเครื่องแม่ข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์เท้านั้น ที่มีรหัสไอพีแอสเดรสแบบคงที่ เรียกว่ามี static IP-address ขณะที่ไอพีแอสเดรสของคอมพิวเตอร์ลูกข่ายทั้งหลาย จะไม่คงที่ หรือDynamic ส่วนจะเป็นรหัสไอพีอะไรนั้น เครื่องเซิรฟเวอร์จะเป็นตัวจัดการให้เอง โดยยึดหลัก FIFO (First In, First Out) ก็หมายความว่า เครื่องลูกข่ายตัวไหนเชื่อมต่อกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ก่อนก็จะๆด้รับการจ่าย รหัสไอพีให้ก่อน-หลัง ตามลำดับไป แต่ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายตัวไหนไปดำเนินการกำหนดรหัสไอพีแอสเดรสของ ตัวเองเป็นแบบคงที่ละก็ คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆ ก็จะถูกเครื่องเซิร์ฟเวอร์เฉดหัวออกไปจากระบบ มิเช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดปัญหารหัสไอพีชนกันได้ในระบบ และเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในฐานะเกตเวย์หรือทางออกสู่อินเทอร์เน็ตของระบบ ก็จะไม่ยอมแบ่งปันการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้กับเครื่องนั้นๆ
OK., after selecting the "Local Area Network" option, the "Local Area Network Connection Status" window appears. You can see its speed of packets transmission (100 Mbps) , bytes of the sent/received packets.
หลังจากที่นักเรียนเลือก "Local Area Network" หน้าต่างที่ชื่อ "Local Area Network
Connection Status" ก็จะโผล่หน้ามาให้ยล ตรงนี้แหละนักเรียนก็จะเห็นได้ว่า ความเร็วของเครือข่ายเราขนาดไหนในการส่งแพ็คเก็ตส์ (จำนวนบิตของข้อมูลในหน่วยวินาที) ความเร็วระดับมดวิ่งนั่นแหละ แค่สัก 100 ล้านบิตต่อวินาที อย่าลืมว่า ตั้ง 8 บิต จึงจะได้ไบต์
Then, when you click on the "Properties" button, another window shows. To find and select the "Internet Protocol Version) option, you can see its IPaddress has been obtained automatically by the gateway/server computer (of the School Media Center).
ต่อ จากนั้นเราก็คลิกปุ่ม properties เราจะพบว่า เครื่องลูกข่ายที่เราใช้อยู่ จะถูกจ่ายรหัสไอพีให้แบบอัตโนมัติ ตามที่กล่าวมาแล้ว (ถ้าจะปรับเป็นรหัสคงที่ก็ต้องมาปรับตรงนี้) แต่ปกติจะตั้งไว้ตามรูปนั่นแหละ
:: :: ::
Another one I would like to refer to is "protocol". What is it? A protocol (www.wikipedia.org) is a system of digital message formats and rules for exchanging those messages in or between computing systems and in telecommunications. And in our network we use the TCP/IP (comes from "Transmission Control Protocol and Internet Protocol). Now Thailand uses IPv4 protocol, but Thai government by Prime Minister Yingluck Shinawatra is going to change the Internet protocol of the country with another version, IPv6 protocol, which has more capacity and efficiency of transmission.มี อีกเรื่องที่ครูอยากจะพูดถึงก็คือ "โปรโตคอล" มันคืออะไร? ถ้่าจะว่าไปนะ คำๆ นี้ มันเป็นภาษาที่ใช้ในวงการฑูตเขา คือกรณีที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารกันระหว่างพวกฑูตของประเทศต่างๆ เขาก็จะต้องมีวิธีการ มาตรฐาน ระบบระเบียบต่างๆ ที่เข้าใจตรงกัน และเขาเรียกว่า protocol ทางวงการคอมพิวเตอร์ก็ไปขอยืมคำศัพท์ของเขามาใช้บ้าง โปรโตคอลของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (www.wikipedia.org) ก็คือ ระบบของรูปแบบข่าว สารเชิงดิจิตอลและกติกา ของการแลกเปลี่ยนกันระหว่างระบบคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม ซึ่งทุกวันนี้ โปรโตคอลที่เราใช้ในเครือข่ายนั้น คือ ทีซีพี/ไอพี (โปรโตคอลควบคุมการส่งข้อมูล และอินเทอร์เน็ตโปรโตคอล) และ ตอน นี้รัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ ฯพณฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็กำลังปรับเปลี่ยนอินเทอร์เน็ตโปรโตคอลของประเทศเรา ที่ขณะนี้เป็นเวอร์ชัน 4 ให้เป็นเวอร์ชั่น 6 เพื่อรองรับปริมาณของเครือข่าย และประสิทธิภาพที่ขยายเพิ่มขึ้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)